วิสัยทัศน์อุโมงค์ : ภัยเงียบของความเร็ว!!


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! ถึงแม้การดื่มสุราแล้วขับรถ จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่จริงๆ แล้ว การขับขี่รถด้วยความเร็ว กลับเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง
       
       รู้หรือไม่ว่า ยิ่งคุณขับรถเร็วมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “วิสัยทัศน์อุโมงค์” ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้นเท่านั้น 
วิสัยทัศน์อุโมงค์ : ภัยเงียบของความเร็ว!!
    

    แล้ว “วิสัยทัศน์อุโมงค์” คืออะไร?

       ปกติ สายตาคนเราจะมองเห็นรายละเอียดทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าได้รอบทิศทาง 180 องศา แต่เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็ว องศาในการมองเห็น จะลดลง ยิ่งเร็วเท่าไหร่ การมองเห็นรายละเอียดจะยิ่งแคบลงมากขึ้น
       
    ยกตัวอย่างเช่น จากปกติ เราจะมีมุมการมองเห็นครบถ้วน 180 องศา แต่เมื่อเราขับรถด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุมการมองเห็นของเราจะลดลงเหลือแค่ 100 องศา และถ้ารถวิ่งด้วยความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราจะมองเห็นเพียง 40 องศา

                                                                 
                                                                  คลิก   👇


                                    


    
       สรุปว่า ยิ่งขับรถเร็ว มองไม่เห็นด้านข้าง ก่อให้เกิด “วิสัยทัศน์อุโมงค์” ที่การมองเห็นได้ชัดจะแคบลง อาจมองไม่เห็นอันตรายจากด้านข้าง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น
       
       อย่าลืมว่า การมองเห็นด้านข้าง คือสิ่งสำคัญสำหรับคนขับรถ เพราะบนเส้นทางที่รถของเรากำลังแล่นไปด้วยความเร็วนั้น มีสิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้อยู่มากมายตลอดรายทาง ซึ่งเราอาจจะมองไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็น “ป้ายเตือนข้างทาง” ทั้งป้ายลดความเร็ว ป้ายบอกทางแยกและป้ายแจ้งจุดกลับรถเพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้ใช้ความระมัดระวัง
       
       นอกจากนี้แล้วยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ บนท้องถนนอีกจำนวนมาก เช่น รถที่กำลังออกจากซอย คนที่ข้ามถนนหนทาง ร้านค้าริมทาง หรือในเขตชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน อาจจะมีเด็กๆ วิ่งเล่น หรือสุนัขวิ่งข้ามถนนไปมา สิ่งเหล่านี้สามารถจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้โดยไม่คาดคิด 
วิสัยทัศน์อุโมงค์ : ภัยเงียบของความเร็ว!!
        หลายคนอาจจะบอกว่า ตัวเองมีสติ ควบคุมได้ ไม่มีปัญหา
       แต่ใครจะรู้ว่าเราจะพลาดตอนไหนเมื่อไหร่ และยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้วยความเร็วและการมองเห็นที่แคบลงด้วยแล้ว การ “พลาด” ยิ่งเกิดขึ้นง่าย
       
       พลาด!...ไม่ทันเห็นป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ข้างทาง ที่จะช่วยเตือน “ลดความเร็ว" "ทางแยก" หรือ "โค้งอันตราย"
       
       พลาด!...ไม่ทันเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นข้างถนน ที่ต้องเพิ่มความระวังมากขึ้น เช่น ตลาดนัดข้างทาง รถจอดริมทาง รถออกจากซอย
       
       หรือ... พลาด!... ไม่ทันรู้ตัวว่าเข้าเขตชุมชน ต้องลดความเร็ว ต้องระวังมากขึ้น อาจมีคนข้ามถนน ร้านขายของริมทาง หรือแม้กระทั่งสุนัขที่อยู่ข้างทางและกำลังเดินมากลางถนน
       
       ยิ่งขับรถเร็ว เรายิ่งมองไม่เห็นด้านข้าง และนั่นก็ยิ่งเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่อาจทำให้จำเป็นต้องหยุดรถกะทันหัน
       แต่มั่นใจได้อย่างไรว่า เราจะสามารถหยุดรถได้ทันอย่างปลอดภัย
       
       เพราะปกติ เราจะใช้เวลาเพียงแค่ 2 วินาทีในการตัดสินใจว่าจะเบรกหรือจะหลบไปทางไหนจนกระทั่งเท้าแตะเบรก เป็นสองวินาทีที่เสี่ยงอย่างที่สุด และยิ่งความเร็วมากขึ้น ยิ่งต้องการระยะหยุดรถที่มากขึ้นด้วย
       
       ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้ความเร็วที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณจะต้องเตรียมระยะทางเพื่อหยุดรถ 27 เมตร และใช้เวลา 2 วินาทีเพื่อทำสิ่งดังกล่าว โดยที่ 14 เมตรแรก ใช้เพื่อการตัดสินใจ และต้องใช้ระยะเบรกอีก 13 เมตรเพื่อหยุดรถให้สนิท แต่ถ้าเป็นความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณต้องเตรียมระยะหยุดรถ 87 เมตร คูณไปอีกเกือบ 3 เท่า
       
       คิดดูว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์กะทันหัน ไม่ทันตั้งตัว คุณจะหยุดรถทันไหมในความเร็วขนาดนั้น
       
       จากอุบัติเหตุที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากความชะล่าใจ คิดว่าตนเองเอาอยู่ โดยเฉพาะกับเรื่องความเร็ว แต่การบาดเจ็บและสูญเสียจนถึงชีวิตแทบทุกครั้ง ก็บอกกับเราว่า มันเกิดขึ้นมาจากการขับขี่รถที่เร็วเกินไป และพลาด
       
       ด้วยเหตุนี้ ก่อนจับพวงมาลัยและออกสตาร์ทครั้งต่อไป อยากให้ระลึกไว้ในใจเสมอว่า
       
       ยิ่งขับเร็ว ยิ่งไม่เห็นด้านข้าง ยิ่งเสี่ยงตาย
       “ลดเร็ว ลดเสี่ยง” 
         

สนับสนุนเนื้อหาโดย
http://manager.co.th/home/







  

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อาหารเช้า สำคัญไฉน??????

ALL ABOUT HAIR

สงครามฝิ่น 鸦片战争 (The Opium War)