Read Like & Share

ลักษณะของเส้นผม        ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์มีเส้นผมอยู่บนศีรษะ นอกจากประโยชน์ด้านความสวยงามแล้ว   เส้นผมยังเป็นส่วนสำคัญต่อการปกป้องหนังศีรษะและยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้ด้วย   เส้นผมเกิดจากโปรตีนเข้มข้นมีชื่อเรียกว่า “Keratin” ประกอบด้วยกรดอะมิโน 21 ชนิด แบ่งออกเป็น 3 ชั้น ชั้นผิวภายนอกของเส้นผม เรีนยกว่า “Cuticle” ประกอบไปด้วยเซลล์เล็กๆ ใสๆ เรียงกันเป็นเกล็ดชั้นๆ คล้ายลอนกระเบื้องมุมหลังคา หรือเกล็ดปลา   ถ้าเซลล์ชั้นนี้เรียบและลื่น   เส้นผมก็จะสะท้อนแสงได้ดี เป็นประกายเงางาม   ชั้นกลางของเส้นผมเรียกว่า “Cortex” นับว่าเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของเส้นผม   และสำหรับชั้นในสุด หรือแกนกลางของเส้นผม เรียกว่า “Medula”   วงจรชีวิตของเส้นผม        เส้นผมบนศีรษะของคนเรามีประมาณ 1 แสนเส้น   ในเดือนหนึ่งๆ เส้นผมแต่ละเส้นจะยาวขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1 cm. และแต่ละเส้นจะมีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี จากนั้นจะร่วงออกตามธรรมชาติ   พร้อมๆ กับเซลล์สร้างผมใหม่ก็จะผลิตเส้นผมใหม่ขึ้นแทนที่ วนเวียนเช่นนี้ตลอดเวลา       เส้นผมมีรากฝังอยู่ใต้หนังศีรษะเล็กน้

แม้ว่าคอเลสเตอรอลจะมีประโยชน์ในด้านการเสริมสร้างพลังงานแก่ร่างกายของคน แต่ถ้ามีมากจนล้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดีนั้น อาจส่งอันตรายถึงชีวิต และนี่ก็คือสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนไทยตายปีละหมื่นๆ แสนๆ คน    คอเลสเตอรอลในร่างกายคนเรามีอยู่สองแบบด้วยกัน คือ        1.Low-density lipoprotein หรือ LDL คือคลอเลสเตอรอลที่ไม่ดี เพราะสามารถเข้าสู่กระแสเลือดและอุดตันเส้นเลือดแดงได้        2.High-density lipoprotein หรือ HDL เป็นคอเลสเตอรอลที่ดีต่อร่างกาย เพราะช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีออกไปจากระบบการทำงาน                   “คอเรสเตอรอลมีทั้งที่มีประโยชน์ ถ้ามีในปริมาณที่พอดี แต่ก็เป็นโทษได้ หากมากเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้เกิดตะกรันในหลอดเลือด ทำให้เกิดอันตราย อย่างถ้าไปขังกันเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตกะทันหัน หรืออัมพฤกษ์อัมพาตได้”         โดยหลักการ 80% ของคอเลสเตอรอลนั้น ถูกผลิตขึ้นมาจากตับ แต่อีก 20% นั้นก็มาจากอาหารที่คุณเลือกรับประทานเข้าไป ดังนั้น หลักง่ายๆ ในการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้คอเลสเตอรอลสูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่บริโภคไขมันอิ่มตัวมากเก

บ่อยครั้งที่เราใช้งานดวงตาไม่ถูกวิธี นอกจากนั้นยังอาจปล่อยปละละเลยในการดูแลอีกด้วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถดูแลสายตาของเราได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เท่านั้น และพยายามทำต่อเนื่อง เราก็จะมีสุขภาพของดวงตาและสายตาที่ดีอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ                  8 วิธีง่ายๆสำหรับการดูแลรักษาดวงตา 1.เมื่อรู้สึกว่าตาแห้ง ให้กระพริบตาถี่ๆ บางครั้งการใช้สายตามากๆ ทำให้เรากระพริบตาน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบางครั้ง อาจจะทำให้กล้ามเนื้อตานั้นล้าได้ พยายามใช้กฎ 20:20:20 คือ ทุกๆ 20 นาที ให้มองไปไกล20 เมตร ประมาณ 20 วินาที เพื่อเป็นการพักสายตา และสายตาล้าเกินไป 2. หากรู้สึกปวดตา หาสำลีชุบน้ำมาวางไว้บนตาขณะหลับตา เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการเมื่อยล้า ความสว่างของห้องทำงาน ควรปรับให้แสงเหมาะสม ไม่ควรทำงานในที่ที่มีแสงสว่างน้อยหรือแสงสว่างจ้ามากเกินไป 3. พักสายตาบ่อยๆ ควรพักสายตาทุกๆ 1 ชั่วโมง พักสายตาโดยการมองออกไปด้านนอก หรือมองอะไรที่เป็นสีเขียวๆ ก็จะสามารถผ่อนคลายได้ 4. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ผักใบเขียว เป็นต้น 5. ปรับแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์และร

เลิกเสียเงินซื้อยาฝรั่ง ต้นเหตุเพียงแค่น้ำมันพืชเคลือบระบบดูดซึม โรคที่มากับน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี…ระบบ เผาผลาญอาหารเสื่อม, เบาหวาน, ธัยรอยด์, เสื่อสมรรถภาพทางเพศ, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคไต                                                                                                                                                                                                             สั่งซื้อสินค้า/สนใจเป็นตัวแทน TheQ International ☎️ Tel : 096-932-6442           062-928-9442 📱 Line :  @ ite5115 h      Facebook :   Martial Horse Serum       www.theqbeauty.com

อาหารสุขภาพ เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับคนยุคใหม่ที่อยากมีร่างกายแข็งแรง ปลอดโรคภัย แต่รู้ไหมว่า อาหารบางอย่างอาจมีพิษแฝงอยู่ กินมากไป กินไม่ถูกวิธีอาจทำให้เจ็บป่วยได้เลย มาดูเลยว่ามีอะไรบ้าง มะเขือเทศ ประโยชน์  มะเขือเทศอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ซึ่งพบว่ามะเขือเทศหนึ่งผลให้วิตามินเอมากถึง 1 ใน 3 ของวิตามินเอที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน นอกจากนี้ในมะเขือเทศยังมีโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและแร่ธาตุอื่นๆอีกหลายชนิด การกินมะเขือเทศที่ปรุงสุกโดยใช้ความร้อนจะได้คุณค่า สารอาหารมากกว่าการกินมะเขือเทศสดๆถึง 4 เท่า เนื่องจาก มะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้วจะมีปริมาณสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนต์มากขึ้น ไลโคปีนช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรค เบาหวาน โรคกระดูกพรุน และภาวะการเป็นหมันในชาย ความเป็นพิษ  พิษที่พบในมะเขือเทศอยู่ในส่วนของก้านและผลของมะเขือเทศดิบ โดยจะพบสารพิษในกลุ่ม Steroidal Alkaloids ซึ่งเป็นสารพิษอันตรายที่พบได้ในบุหรี่และกัญชา เมื่อร่างกายได้รับสารพิษนี้จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง และเกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ วิธีกิน  หลีกเลี่ย